Brancaia ตำนาน Super Tuscan บทใหม่
Brancaia อ่าน ออกเสียงว่า บรานกายย่า เป็นผู้ผลิตไวน์ Super Tuscan น้องใหม่ที่มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จได้รวดเร็ว จากการที่เพิ่งก่อตั้งมาเมื่อปี 1981 เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น ๆ ที่ก่อตั้งมาเป็นร้อย ๆ ปี
| ประวัติของ Brancaia
Brancaia ก่อตั้งโดย บริจิตต์-บรูโน วิดเมอร์ (Brigitte & Bruno Widmer) สองสามีภรรยาชาวสวิส ซึ่งเป็นคนรักไวน์ โดยทั้งคู่ได้เข้ามาท่องเที่ยวใน แคว้นทัสคานี (Tuscany) และได้ไปเห็นโรงผลิตไวน์เก่าที่ถูกทิ้งร้างใน ตำบลคาสเตลลิน่า อิน เคียนติ (Comune di Castellina in Chianti) จึงขอซื้อจากเจ้าของรายเดิม ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น คือ Brancaia Estate บนพื้นที่กว่า 8 เฮ็คต้าร์ (หรือประมาณ 50 ไร่)
ผลงานชิ้นแรกของ บริจิตต์-บรูโน วิดเมอร์ (Brigitte & Bruno Widmer) คือ เคียนติ คลาสสิโก้ ริแซร์ว่า (Chianti Classico Ris.) วินเทจ 1982 ซึ่งใช้องุ่นซานโจเวเซ่ (Sangiovese) ที่เจ้าของเก่าปลูกเอาไว้มาผลิต
ต่อมาในช่วงปี 1988 Brancaia ได้เริ่มผลิตฉลาก อิล บลู (Il Blu) โดยใช้ องุ่นซานโจเวเซ่ (Sangiovese) เป็นตัวหลัก และแต่งเติมด้วย องุ่นแมร์โล (Merlot) และ องุ่กาแบร์เน โซวีญง (Cabernet Sauvignon) อายุมากถึง 7 ปี เก็บบ่มในถังบาร์ริค (Barrique) เป็นเวลา 20 เดือน และเก็บในขวดอีก 4 เดือน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แตกต่างจากไวน์ซูเปอร์ทัสคันตัวอื่นๆ จึงให้บุคลิกภาพที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ส่งผลให้ Brancaia กลายเป็นที่รู้จักนับจากวินเทจ 1994 เป็นต้นมา ทั้งเรื่องของคุณภาพและราคาที่ไม่สูงมากนัก
ปัจจุบัน Brancaia ถูกส่งต่อ ให้อยู่ในความดูแลของลูกสาวของทั้งคู่ ที่มีชื่อว่า บาร์บารา วิดเมอร์ (Babara Widmer) และผู้เชี่ยวชาญการทำไวน์ชื่อ ดร.คาร์โล เฟอร์รินี (Carlo Ferrini) โดยได้ขยายไลน์การผลิตไวน์ตัวอื่น ๆ เป็นทางเลือกไว้ด้วย เช่น ฉลากเหลือง Tre Rosso, ฉลากแดง Chianti Classico Riserva, ฉลากสีดำ Maremma Cabernet Sauvignon ซึ่งหลายๆ ฉลากบอกได้เลยว่าได้รับคะแนนรีวิวมากกว่า 80 คะแนน ทั้งจาก Wine Spectator, Robert Paker รวมไปถึง Jame Suckling อีกด้วยครับ
ภาพประกอบ : https://blog.xtrawine.com/