เก็บไวน์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?

27 เมษายน 2018
เก็บไวน์ที่ถูกต้องควรทำอย่างไร?
Posted in: Wine Basic
More from this author
By Wine Guru

 

ความเชื่อทั่วไปในการเก็บรักษาไวน์

>> “การเก็บไวน์ในอุณหภูมิห้องนั้นก็เพียงพอแล้วจริงหรือ?”

คำกล่าวนี้อาจจะเป็นจริงสำหรับประเทศต้นกำเนิดของไวน์โซนยุโรปที่มีอุณภูมิเย็น ประมาณ 12-19 องศาเซลเซียสซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาไวน์อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีภูมิอากาศที่ร้อนกว่า ที่ 28-35 องศาเซลเซียส การเก็บไวน์อุณหภูมิห้องนั่นจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

 

>> “การเก็บไวน์ ต้องวางขวดในแนวนอน?”

เนื่องจากไวน์บางขวดนั้น ใช้จุกคอร์ก (Cork) ในการปิด เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จุกคอร์กจะแห้งและหดตัวลง สิ่งที่ตามมาก็คือ อากาศจากภายนอกจะเข้าไปสัมผัสกับไวน์ในขวด ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพ หรือกลายเป็นไวน์เสีย การจัดวางขวดไวน์เป็นแนวนอนนั้น ช่วยให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและคงสภาพเดิมอยู่เสมอ แต่ในกรณีของไวน์ที่ใช้ฝาเกลียว ที่สามารถปิดผนึกขวดได้แน่นหนาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องวางในลักษณะนี้

 

ทั้งนี้หลักที่ถูกต้องการเก็บรักษาไวน์ มีปัจจัยหลักๆที่คุณต้องคำนึงถึง คือ “อุณหภูมิ, ความชื้น, แสง, กลิ่น, การสั่นสะเทือน และรูปแบบการจัดเก็บ” ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญของการคงสภาพไวน์ของคุณให้เหมาะสมแก่การดื่มที่สุด WINE-NOW.ASIA ขอพาคุณไปดูแต่ละหัวข้อกันอย่างละเอียด

 


 

การเก็บรักษาไวน์ที่ถูกต้อง

1. อุณหภูมิการเก็บรักษาไวน์ คือ 15-20 องศาเซลเซียส

Temperature

 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของไวน์มากที่สุด เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมย่อมทำให้ไวน์แสดงรสชาติได้ดี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แดงนั้นอยู่ที่ 12-18 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้มีรสชาติฝาดแหลมและสัมผัสของแอลกอฮอล์ที่แรงจนเกินไป ส่วนไวน์ขาวหรือกลุ่ม Sparkling Wine นั้นควรอยู่ในระหว่าง 6-12 องศาเซลเซียสเพื่อให้มีรสสัมผัสที่สดชื่นขึ้น และควรมีความเย็นที่สม่ำเสมอ การเก็บไวน์ในตู้เย็นจึงไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องเลย


ตู้แช่ไวน์ Temptech ที่ให้ความเย็นในระดับที่เหมาะสมกับไวน์แต่ละประเภท พร้อมแบ่งช่องในการเก็บไวน์ต่างชนิดได้ในตู้เดียวกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าไวน์ขวดโปรด ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง (Red Wine), ไวน์ขาว (White Wine) หรือ สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling wine) จะถูกเก็บในระดับความเย็นที่เหมาะสมที่สุดเสมอ

 

2. ความชื้นอยู่ที่ระดับ 50-70%

Humidity

 

ความชื้นก็มีผลต่อการเก็บรักษาไวน์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไวน์ที่ใช้ จุกคอร์ก (Cork) ในการผนึกปากขวด เพราะถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยกว่า 50% จะส่งผลให้จุกคอร์ก (Cork) นั้นแห้งกรอบและหดตัวลง มีโอกาสที่อากาศจากภายนอกเข้าไปสัมผัสกับไวน์จนเกิดการ Oxidation ทำให้ไวน์นั้นมีรสชาติที่เปลี่ยนไป หรือเศษจุกคอร์กนั้นร่วงลงไป ส่งผลให้ไวน์เสียเร็วขึ้น และถ้ามีความชื้นมากกว่า 70% ทำให้ฉลากของไวน์ที่เก็บไว้เปื่อยยุ่ย จนเกิดความเสียหายได้

 

ตู้เก็บไวน์ Temptech จึงมาพร้อมกับคุณสมบัติการควบคุมความชื้นแบบอัจฉริยะ ที่จะคงระดับไว้ช่วง 50-70% เพื่อคงคุณภาพของไวน์ในขวด และ ไปจนถึงความสวยงามของฉลากที่คุณต้องการสะสมให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดไว้

 

3. อย่าให้โดนแสง

Light

 

เป็นจุดที่ควรระวังอีกข้อ เพราะการที่น้ำไวน์ได้สัมผัสกับแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสง UV จากแสงแดด ที่ทำให้เกิดความร้อนจนไปเร่งกระบวนการหมักบ่มของไวน์นั้นทำงานเร็วขึ้น รสชาติของไวน์จะแปลกไปจากที่ควรจะเป็น นั่นเป็นสาเหตุที่ Winery มักจะสร้าง Wine Cellar ไว้ใต้ดิน หรือตามร้านอาหารมักจะเก็บไวน์ไว้ในห้องทึบแสง รวมถึงการทำขวดไวน์แดงเป็นสีเขียว เพื่อป้องกันแสงจากภายนอกนั่นเอง


ตู้แช่ไวน์ Temptech ก็เช่นกัน เพราะสำหรับรุ่นที่โชว์ฉลากนี้ ได้ติดตั้งกระจกนิรภัยTriple Layer Glass เพื่อความแข็งแรง และเคลือบชั้นกระจกป้องกันรังสี UV จากภายนอก มาพร้อมกับไฟ LED ที่ให้แสงสว่างที่มากกว่า แต่ปล่อยความร้อนและแสง UV น้อยกว่าหลอดไฟส่องสว่างทั่วไป อย่างเช่น Temptech รุ่น Copangagen CD180SB เป็นต้น

 

4. ป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

Ordor

 

นอกจากสีสันและรสชาติแล้ว กลิ่นนั้นก็เป็นเสน่ห์อีกข้อของไวน์เช่นกัน แต่ถ้าเวลาเปิดตู้แช่ออกมาแล้วได้กลิ่นอับข้างในโชยออกมา ย่อมทำให้สุนทรียภาพในการดื่มสะดุดลงทันที และสำหรับไวน์ที่เคยเปิดมาครั้งหนึ่งแล้วเก็บรักษาไม่ดี จะไม่สามารถแก้ไขให้กลิ่นดั้งเดิมของไวน์ขวดนั้นกลับมาได้อีกเลย

เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น Temptech จึงได้ติดตั้ง Charcoal Filter ในระบบหมุนเวียนอากาศของตู้แช่ไวน์ เพื่อขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไปพร้อมทั้ง Rack ไม้สำหรับวางขวดไวน์ ที่ใช้ไม้ธรรมชาติคุณภาพดี ไม่ผ่านการเคลือบย้อมและสารเคมีใด ๆ ให้เกิดกลิ่นรบกวนภายในตู้แช่

 

5. เกิดการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด

Vibrating

 

เชื่อหรือไม่? ตู้แช่ไวน์ราคาถูกทั่วไปนั้น ถึงแม้จะสามารถทำความเย็นได้ดี แต่อาจจะมีเสียงที่ดังและเกิดการสั่นสะเทือน โดยเฉพาะการหมุนมอเตอร์ในระบบทำความเย็น มีการพิสูจน์มาแล้วว่า การสั่นสะเทือนนั้นทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้นจากเดิม เมื่อไวน์ได้รับความร้อนเพิ่ม ก็จะไปเร่งกระบวนการหมักบ่มให้ทำงาน ส่งผลให้ไวน์สุกจนเกินไป รสชาติจากเดิมที่พอดีจึงผิดไปจากที่ควรจะเป็น และจนถึงบูดเสียเร็วขึ้นจนไวน์ขวดนั้นหมดมูลค่าไปทันที ทั้งนี้ นี่เป็นปัจจัยที่คนรักไวน์ส่วนมากนึกไม่ถึง


แต่สำหรับตู้เก็บไวน์Temptechไม่ยอมปล่อยให้จุดเล็ก ๆ นี้มาทำลายคุณภาพของไวน์ได้ จึงเลือกใช้ระบบทำความเย็นที่มีความเงียบและนิ่ง เพื่อคงรสชาติที่พอดีและเก็บรักษาไว้ได้ยาวนาน

 

6. มีรูปแบบการวางขวดเป็นแนวนอน

Position

 

เหตุผลหลักของการวางไวน์ในแนวนอนนั้นคือ การช่วยให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก ทำให้ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ปกป้องไวน์จากอากาศภายนอกที่จะเข้ามาทำให้ไวน์เสื่อมคุณภาพลง เมื่อเทียบกับการวางแนวตั้ง เมื่อไม่ได้สัมผัสความชุ่มชื้นจากน้ำไวน์ จุกคอร์กจึงเกิดการแห้งกรอบ และเศษจุกคอร์กสามาร่วงลงไปในไวน์ ทำให้ไวน์เสียเร็วขึ้น หรือจุกหักในคอขวดขณะเปิด

ตู้แช่ไวน์Temptech จึงได้จัดรูปแบบ Rack วางขวดไวน์ให้อยู่ในแนวนอนเสมอ เพื่อรักษาจุกคอร์กให้แน่นหนาและคุณภาพของไวน์ให้สมบูรณ์ในระยะยาว นอกจากนี้ยังใช้พ้นที่การจัดเก็บน้อยลง และง่ายต่อการหยิบมากกว่าการวางแบบอื่น

 


 

นี่เป็นหลักการ 6 ข้อ สำหรับการเลือกดูตู้แช่ไวน์ ที่จะช่วยคงคุณภาพและคุณค่าของไวน์ที่รัก ให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเมื่อถึงเวลาที่จะเปิดดื่มในโอกาสสำคัญ

 

How to preserve your wine

 

Temptech ตู้แช่ไวน์ที่ดีที่สุดยอดขายอันดับ 1 ใน Scandinavia มีคุณสมบัติของตู้แช่ไวน์คุณภาพ ครบทั้ง 5 ประการ  คือ

 

1. ระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม

2. ความชื้นที่พอเหมาะในการเก็บรักษา

3. รังสีป้องกันรังสี UV จากภายนอก

4. ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

5. ป้องกันแรงสั่นสะเทือน

6. ลักษณะการจัดวางขวดไวน์ที่ถูกต้อง

 

ปกป้องไวน์ขวดโปรดของคุณให้อยู่ไปนาน ๆ ให้พร้อมเสมอกับการลิ้มรสชาติที่ยอดเยี่ยมอย่างที่เคยในทุกโอกาส

สำหรับคุณผู้อ่านที่ชื่นชอบครัวสไตล์ Minimal Luxury หรือ ดีไซน์การออกแบบเครื่องใช้ที่เรียบหรูจากยุโรป เราขอแนะนำ ตู้แช่ไวน์ Temptech รุ่น Elegance ที่ออกแบบมาให้เข้ากับรสนิยมของคุณโดยเฉพาะ