Duval-Leroy ผู้บุกเบิกนวัตกรรมที่ยั่งยืนของ Champagne
Duval-Leroy (ดูวัล-เลอรอย) - Champagne House จาก Côte des Blancs ที่ดำเนินกิจการแบบครอบครัว และเป็นอีกหนึ่งผู้บุกเบิกนวัตกรรมการผลิตไวน์ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมไวน์เป็นกลุ่มแรก ๆ พร้อมสร้างสรรค์ Champagne (แชมเปญ) ชั้นเลิศ จากไร่ชั้น Grand Cru และ Premier Cru เพื่อผลักดันการยกมาตรฐานและนวัตกรรมขั้นสูง
| DUVAL LEROY
Duval-Leroy ก่อตั้งเมื่อปี 1859 จากความร่วมมือระหว่าง Edouard Leroy พ่อค้าไวน์จาก Villers-Franqueux และ Jules Duval ผู้ปลูกองุ่นและ Winemaker จาก Vertus หลังจากการเสียชีวิตของ Jules Chales Duval บริษัทก็ถูกบริการงานต่อโดย Carol Duval-Leroy ผู้เป็นภรรยา และลูกชายทั้ง 3 Julien, Charles และ Louis
ไร่องุ่นของ Duval-Leroy มีพื้นที่การเพาะปลูกถึง 490 เอเคอร์ โดยส่วนใหญ่จะปลูกองุ่น Chardonnay และ Pinot Noir โดยไร่ที่ปลูกองุ่นทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ จัดอยู่ในชั้น Grand Cru และ Premier Cru ด้วยสภาพดินที่มีส่วนผสมของหินปูนและหินแข็ง
อีกจุดเด่นสำคัญของ Duval-Leroy คือการเป็นผู้บุกเบิกการปลูกองุ่นโดยใช้แนวทางที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในตลอดเวลากว่า 20 ปี ไม่ว่าการจัดการน้ำฝนไหลบ่า การลดมลพิษ การรักษาความหลากหลายทางธรรมชาติ ฟื้นฟูระบบนิเวศ
อย่างเช่นในช่วงปี 2000 ไร่องุ่นของที่นี่ ได้ลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืชไปได้กว่า 50% และลดการน้ำไปกว่า 30% รวมถึงการจำกัดปริมาณการใช้สารบำรุงต้นองุ่นให้มีความเหมาะสม พร้อมทั้งลงทุนสร้างแหล่งพลังงานหมุนเวียนในไร่ และการให้ความร้อนในห้องเก็บถังไม้โอ๊คด้วยแสงอาทิตย์
ทั้งหมดนี้ ทำให้ Champagne ของ Duval-Leroy เป็น Champagne ที่ไม่เพียงมีมาตรฐานในระดับสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรายแรก ๆ ของวงการ และพร้อมส่ง Champagne คุณภาพสูงถึงมือของคอไวน์ทั่วโลก
| DUVAL LEROY FLEUR DE PREMIER CRU
Champagne ชั้น Premier Cru ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1911 โดย Raymond Duval-Leroy เพื่ออุทิศให้กับเจ้าของในรุ่นก่อน ๆ ซึ่งในปีดังกล่าว ไร่ของ Duval-Leroy ได้รับการรับรองระดับอย่างเป็นทางการ ผลิตขึ้นโดยการผสมผสานเอกลักษณ์ของ Chardonnay และ Pinot Noir เข้าด้วยกัน
มาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ ที่ทำให้นึกถึง Wine Flower ในเดือนมิถุนายน จนเป็นที่มาของชื่อ Fleur de Champagne ด้วยความงดงาม, โครงสร้างของไวน์ที่ยอดเยี่ยม พร้อมชั้นฟองที่ละเอียดและนุ่มนวล อีกทั้งรสชาติที่คงสมดุลได้อย่างดี เหมาะกับการ Pairing คู่กับกุ้งมังกรนอร์เวย์ย่าง หรือของหวานอย่าง Pineapple Carpaccio