หลังเจรจาข้อตกลงมาอย่างยาวนาน Chanel ก็ได้สิทธิ์ครอบครอง Domaine de I’lle ไร่ไวน์ที่ตั้งอยู่ในเกาะเล็กๆ อยู่ในเมืองโพรวองซ์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เป็นไร่ไวน์ออร์แกนิคขนาด 75 เอเคอร์ (ประมาณ 180 ไร่) ผลิตทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว และไวน์โรเซ่ โดยผลิตไวน์โรเซ่ต่อปีที่สูงถึง 70% ของไวน์ทั้งหมด ซึ่ง Nicolas Audebert (นิโคลาส์ โอเดอเบิร์ท) ผู้ผลิตไวน์ของ Chanel ก็ได้เปิดเผยว่า ทางแบรนด์ได้วางแผนมุ่งเน้นไปที่การผลิตไวน์โรเซ่โดยเฉพาะอีกด้วย 

สำหรับ Chanel การทำธุรกิจไวน์ไม่ใช่เรื่องที่ใหม่ เพราะทาง Chanel มีไร่ไวน์มาแล้วด้วยกันถึง 4 แห่ง โดย 3 แห่ง อยู่ที่เมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝั่งเศส (Bordeaux, France) ได้แก่ Chateau Rauzan-Ségla ที่เข้าซื้อในปี 1994, Chateau Canon เข้าซื้อในปี 1996, Chateau Berliquet ที่เข้าซื้อในปี 2017 นอกจากนี้แล้ว Chanel ยังมีไร่ไวน์อยู่ที่ Napa Valley (นาปา แวลลีย์) ซึ่งก็คือ St. Supéry Estate Vineyards and Winery ที่เข้าซื้อในปี 2015 อีกด้วย

ต้องติดตามกันว่าเทรนด์ของไวน์โรเซ่ปีนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ๆ คือ Chanel ต้องทำอะไรสักอย่างให้เราอยากดื่มไวน์โรเซ่อย่างแน่นอน