จะเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ เราควรเลือกจากอะไร ?

17 มิถุนายน 2023
จะเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ เราควรเลือกจากอะไร ?
Posted in: Wine Basic
More from this author
By WINE-NOW

 

การเก็บไวน์ในอุณหภูมิห้องนั้นก็เพียงพอแล้วจริงหรือ ? คำกล่าวนี้อาจจะเป็นจริงสำหรับประเทศต้นกำเนิดของไวน์โซนยุโรป ที่มีอุณภูมิเย็น ประมาณ 12-19 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการเก็บรักษาไวน์อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้มีภูมิอากาศที่ร้อนกว่า ที่ 28-35 องศาเซลเซียส การเก็บไวน์อุณหภูมิห้องนั่นจึงไม่ใช่ความคิดที่ดีสักเท่าไหร่

การเก็บไวน์ในตู้แช่ จึงถือเป็นทางออกสำหรับคอไวน์ ที่จะเก็บสะสมไวน์ได้อย่างสบายใจ สำหรับใครที่กำลังมองหาตู้แช่ไวน์อยู่ละก็ วันนี้ Wine-Now.Asia มีเทคนิคเล็กๆ ในการเลือกตู่แช่ไวน์ฝากทุกท่านกันครับ บอกเลยว่าแต่ละข้อสำคัญมาก  

6 เทคนิค เลือกตู้แช่ไวน์คุณภาพ 

จะเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ เราควรเลือกจากอะไร ?

1. ควบคุมอุณหภูมิการเก็บรักษาไวน์ 15-20 องศาเซลเซียส

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของไวน์มากที่สุด เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสมย่อมทำให้ไวน์แสดงรสชาติได้ดี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แดงนั้นอยู่ที่ 12-18 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้มีรสชาติฝาดแหลมและสัมผัสของแอลกอฮอล์ที่แรงจนเกินไป ส่วนไวน์ขาวหรือกลุ่ม Sparkling Wine นั้นควรอยู่ในระหว่าง 6-12 องศาเซลเซียส เพื่อให้มีรสสัมผัสที่สดชื่นขึ้น และควรมีความเย็นที่สม่ำเสมอ การเก็บไวน์ในตู้เย็นจึงไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้องเลย

| 2. ควบคุมความชื้นอยู่ที่ระดับ 50-70%

ความชื้นก็มีผลต่อการเก็บรักษาไวน์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไวน์ที่ใช้ จุกคอร์ก (Cork) ในการผนึกปากขวด เพราะถ้าความชื้นในอากาศมีน้อยกว่า 50% จะส่งผลให้จุกคอร์ก (Cork) นั้นแห้งกรอบและหดตัวลง มีโอกาสที่อากาศจากภายนอกเข้าไปสัมผัสกับไวน์จนเกิดการ Oxidation ทำให้ไวน์นั้นมีรสชาติที่เปลี่ยนไป หรือเศษจุกคอร์กนั้นร่วงลงไป ส่งผลให้ไวน์เสียเร็วขึ้น และถ้ามีความชื้นมากกว่า 70% ทำให้ฉลากของไวน์ที่เก็บไว้เปื่อยยุ่ย จนเกิดความเสียหายได้

| 3. ปกป้องการโดนแสง

เป็นจุดที่ควรระวังอีกข้อ เพราะการที่น้ำไวน์ได้สัมผัสกับแสง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสง UV จากแสงแดด ที่ทำให้เกิดความร้อนจนไปเร่งกระบวนการหมักบ่มของไวน์นั้นทำงานเร็วขึ้น รสชาติของไวน์จะแปลกไปจากที่ควรจะเป็น นั่นเป็นสาเหตุที่ Winery มักจะสร้าง Wine Cellar ไว้ใต้ดิน หรือตามร้านอาหารมักจะเก็บไวน์ไว้ในห้องทึบแสง รวมถึงการทำขวดไวน์แดงเป็นสีเขียว เพื่อป้องกันแสงจากภายนอกนั่นเอง

จะเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ เราควรเลือกจากอะไร ?

| 4. ป้องกันกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

นอกจากสีสันและรสชาติแล้ว กลิ่นนั้นก็เป็นเสน่ห์อีกข้อของไวน์เช่นกัน แต่ถ้าเวลาเปิดตู้แช่ออกมาแล้วได้กลิ่นอับข้างในโชยออกมา ย่อมทำให้สุนทรียภาพในการดื่มสะดุดลงทันที และสำหรับไวน์ที่เคยเปิดมาครั้งหนึ่งแล้วเก็บรักษาไม่ดี จะไม่สามารถแก้ไขให้กลิ่นดั้งเดิมของไวน์ขวดนั้นกลับมาได้อีกเลย

| 5. เกิดการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด

เชื่อหรือไม่? ตู้แช่ไวน์ราคาถูกทั่วไปนั้น ถึงแม้จะสามารถทำความเย็นได้ดี แต่อาจจะมีเสียงที่ดังและเกิดการสั่นสะเทือน โดยเฉพาะการหมุนมอเตอร์ในระบบทำความเย็น มีการพิสูจน์มาแล้วว่า การสั่นสะเทือนนั้นทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้นจากเดิม เมื่อไวน์ได้รับความร้อนเพิ่ม ก็จะไปเร่งกระบวนการหมักบ่มให้ทำงาน ส่งผลให้ไวน์สุกจนเกินไป รสชาติจากเดิมที่พอดีจึงผิดไปจากที่ควรจะเป็น และจนถึงบูดเสียเร็วขึ้นจนไวน์ขวดนั้นหมดมูลค่าไปทันที ทั้งนี้ นี่เป็นปัจจัยที่คนรักไวน์ส่วนมากนึกไม่ถึง

| 6. มีรูปแบบการวางขวดเป็นแนวนอน

เหตุผลหลักของการวางไวน์ในแนวนอนนั้นคือ การช่วยให้น้ำไวน์ได้สัมผัสกับจุกคอร์ก ทำให้ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ปกป้องไวน์จากอากาศภายนอกที่จะเข้ามาทำให้ไวน์เสื่อมคุณภาพลง เมื่อเทียบกับการวางแนวตั้ง เมื่อไม่ได้สัมผัสความชุ่มชื้นจากน้ำไวน์ จุกคอร์กจึงเกิดการแห้งกรอบ และเศษจุกคอร์กสามาร่วงลงไปในไวน์ ทำให้ไวน์เสียเร็วขึ้น หรือจุกหักในคอขวดขณะเปิด

 
6 เทคนิคที่กล่าวมานี้ ถือเป็นหลักการง่ายๆ สำหรับการเลือกซื้อตู้แช่ไวน์ที่ดี ที่จะช่วยคงคุณภาพ และคุณค่าของไวน์ที่รักให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเมื่อถึงเวลาเปิดดื่ม