Monsoon Valley ไวน์ละติจูดใหม่ บนผืนดินไทย
ในประเทศไทย ถือว่าเป็นดินแดนเขตร้อนอีกแห่งหนึ่ง ที่มีศักยภาพในการปลูกองุ่นและทำการผลิตไวน์ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หรือภูมิอากาศเขตร้อนที่คล้ายคลึงกับประเทศผู้ผลิตไวน์เขตร้อน จึงทำให้เป็นอีกความคาดหวังสำหรับการสร้างสรรค์ไวน์สัญชาติไทยขึ้นมา
เมื่อพูดถึงไวน์สัญชาติไทย เราเองก็มีไวน์อีกหนึ่งแบรนด์ที่อยากจะขอแนะนำให้ได้ทำความรู้จักกัน ไม่ว่าจะในฐานะไวน์แบรนด์ไทย หรือไวน์เจ้าของรางวัลการันตีระดับโลกกว่า 300 รายการ อย่าง Monsoon Valley (มอนซูน แวลลีย์) นั่นเอง
| ประวัติของ Monsoon Valley
Monsoon Valley (มอนซูน แวลลีย์) ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดยคุณเฉลิม อยู่วิทยา นักธุรกิจผู้มีความหลงใหลในรสชาติของไวน์และมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมไวน์อันเข้มแข็งขึ้นมาในไทย หลังจากที่คุณเฉลิมกลับมาจากการศึกษาต่อที่ต่างประเทศ คุณเฉลิมได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของการปลูกองุ่นในประเทศไทย และตั้งเป้าหมายที่จะแสดงให้โลกได้รับรู้ว่าเขตภูมิอากาศอย่างเส้นรุ้งที่ 13 องศาเหนือเองก็ผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมได้ ยืนยันด้วยการการันตีรสชาติจากเวทีประกวดระดับโลกมากกว่า 300 รายการ
ไร่องุ่นแห่งแรก ตั้งอยู่ที่อำเภอทับกวาง ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตที่ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่น "ดั้งเดิม" ในประเทศไทย ถูกล้อมรอบด้วยอุทยาแห่งชาติและป่าดิบชื้น ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวด้วยดินแดงอุดมสมบูรณ์กับสภาพอากาศที่เหมาะสมในการเพาะปลูกองุ่นพันธุ์ Shiraz และมองหาพื้นที่เพาะปลูกใหม่อีกแห่งที่เหมาะสม
ในปีพ.ศ. 2545 คุณเฉลิมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมการเพาะองุ่นในโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับความสนใจมากนักในฐานะแหล่งปลูกองุ่นมาก่อน แต่คุณภาพขององุ่นที่เพาะปลูกในโครงการกลับมีคุณภาพดี และเริ่มการออกหาซื้อที่ดินที่ใหญ่พอที่จะปลูกองุ่นให้ได้มากพอสำหรับใช้เพื่อการผลิตไวน์ในเขตหัวหินทันที โดยอยู่ที่ตำบลบ้านคอกช้าง ตำบลเล็ก ๆ ในหุบเขาเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหาดหัวหินราว 35 ก.ม. โดยอดีตเคยเป็นสถานที่ฝึกช้างป่ามาก่อน ก่อตั้งเป็น Monsoon Valley Vineyard และเป็นไร่ที่ใช้เพาะปลูกในปัจจุบัน มีสายพันธุ์องุ่นมากมาย เช่น Colombard, Chenin Blanc, Sageovese, Rondo, Shiraz, Dornfelder, Muscat, Merlot, Cabernet Sauvignon และ Sauvignon Blanc
ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลทำให้ไร่องุ่นหัวหินได้รับลมทะเลเย็นสบายตลอดคืน ในขณะเดียวกันก็ได้รับดินร่วนทรายที่มีสารอาหารสูง จากเปลือกหอยและฟอซซิลแร่ธาตุนานาประการจากทะเล ซึ่งช่วยมอบรสชาติและความสดชื่นให้แก่องุ่น พื้นที่เพาะปลูกของหัวหินมีทั้งหมดประมาณ 700 ไร่ (110 เฮคเตอร์) พื้นที่ที่เหลือถูกใช้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์ท้องถิ่นมากมาย
| ที่มาของชื่อมอนซูน แวลลีย์
"Monsoon" มาจากภาษาอังกฤษที่แปลว่า มรสุม อีกตัวแปรสำคัญของความอุดมสมบูรณ์ในประเทศเขตร้อนชื้น โดยฤดูมรสุมของไทยจะมีระยะเวลายาวนานตั้งแต่เดือน กรกฎาคม จนถึง ตุลาคม และถือเป็นช่วงเวลาที่สิ่งมีชีวิตงอกงาม เมื่อเกษตรกรเริ่มกักเก็บน้ำจากมรสุมเอาไว้ใช้สำหรับฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง
