เสิร์ฟไวน์ในอุณหภูมิที่ใช่ ฉลากไหนก็ดี

29 กันยายน 2023
เสิร์ฟไวน์ในอุณหภูมิที่ใช่ ฉลากไหนก็ดี
Posted in: Wine Basic
More from this author
By WINE-NOW

 

เคยสังเกตหรือไม่? ว่าไวน์ฉลากเดียวกัน แต่ดื่มในอุณหภูมิคนละแบบ ทำไมรสชาติมันไม่เหมือนกัน เมื่อดื่มแบบเย็น ๆ นั้นได้รสชาติดีมาก ๆ แต่พอปล่อยไว้จนหายเย็น รสชาติของ Tannin และสัมผัสของแอลกอฮอล์กลับแรงขึ้น หรือบางครั้งดื่มแบบเย็นจัด แต่กลับไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ทั้งหมดทั้งมวลนั้น มีสาเหตุมาจากอุณหภูมิทั้งสิ้น

เพราะไวน์แต่ละประเภท มีอุณหภูมิในการเสิร์ฟที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น Red Wine (ไวน์แดง) , White Wine (ไวน์ขาว) , Rose Wine (ไวน์โรเซ่) , Dessert Wine (ไวน์หวาน) และ Sparkling Wine (สปาร์กลิ้งไวน์) สำหรับใครที่เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นาน นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ควรรู้ สำหรับการเสิร์ฟไวน์อย่างเหมาะสม


| RED WINE (ไวน์แดง)

ไวน์ชนิดนี้ จะมีรสชาติของ Tanin ที่ชัดเจน และบางฉลากจะมีรสสัมผัสที่หนักแน่นและเข้มข้น ขึ้นอยู่กับว่าผลิตจากองุ่นชนิดไหน และมีคาแรคเตอร์อย่างไร

การเสิร์ฟไวน์แดงนั้น ควรมีอุณหภูมิระหว่าง 17-21 องศาเซลเซียส เพื่อลดสัมผัสของแอลกอฮอล์และรสชาติของ Tannin ที่หนักจนเกินไปให้มีความพอดี และดื่มง่ายขึ้น แต่ไม่ควรเย็นไปมากกว่านี้ เพราะความเย็นจะทำให้ไวน์เสียกลิ่นหอมเฉพาะตัวไป

| WHITE WINE (ไวน์ขาว)

คาแรคเตอร์ของไวน์ชนิดนี้คือรสสัมผัสอันสดชื่น และไวน์ขาวจากองุ่นบางสายพันธุ์ จะมีความโดดเด่นของ Citrus อันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

สำหรับไวน์ขาว ควรมีอุณหภูมิที่เย็นกว่าไวน์แดง ระหว่าง 1-14 องศาเซลเซียส ยิ่งไวน์ที่รสสัมผัสแบบ Zesty ควรดื่มทั้งเย็น ๆ แต่สำหรับไวน์ขาวที่มีสัมผัสของ Oak ควรจะให้อุ่นขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อให้กลิ่นของ Oak มีความเด่นชัดขึ้น

| ROSE WINE (ไวน์โรเซ่)

เป็นไวน์ที่อยู่ตรงกลางระหว่างไวน์แดงและไวน์ขาว นอกจากสีชมพูที่สวยงามเหมือนกลีบกุหลาบแล้วเอกลักษณ์สำคัญคือความ Fruity ของเบอร์รี่ ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้ลิ้มรส

อุณหภูมิที่เหมาะสมนั้น ควรอยู่ที่ 12-17 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่ากำลังพอดี แต่สำหรับไวน์ที่มีความ Fruity มาก ๆ ควรจะให้อุ่นกว่านี้เล็กน้อย หลังจากเอาออกจากตู้แช่ ให้วางไว้ราว 30 นาที ก่อนเปิดดื่ม

| SPARKLING WINE / CHAMPAGNE (สปาร์กลิ้งไวน์ / แชมเปญ)

ไวน์ที่มาพร้อมกับฟอง ซึ่งเกิดจากการหมักบ่มตามธรรมชาติ มีสีทองสวยงาม มักมีเฉดสีที่ต่างกันออกไปตามชนิดองุ่น และวิธีการผลิต เป็นไวน์ที่มักถูกเลือกในการเปิดเพื่อดื่มฉลองในโอกาศสำคัญ

นี่เป็นไวน์ประเภทที่ควรเสิร์ฟให้เย็นที่สุดในบรรดาไวน์ทั้งหมด โดยจะอยู่ระหว่าง 5-10 องศา เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่สดชื่น และได้ฟองมากที่สุด ก่อนเสิร์ฟสามารถแช่ในช่องแช่แข็งไว้ราว 1 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟได้ และไวน์ที่มีราคาสักหน่อย อาจจะต้องเสิร์ฟในอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาอีกนิด เพื่อให้กลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวแสดงออกมาอย่างชัดเจน

| DESSERT WINE (ไวน์หวาน)

ในส่วนของไวน์หวาน หรือ Dessert Wine ที่มีรสชาติหวานชัดเจนกว่าไวน์ชนิดอื่น นิยมดื่มหลังอาหาร สีสันจะมีตั้งแต่สีแดงเข้ม สีทองอ่อน ๆ หรือ สีชมพูสดใส มีทั้งแบบ Still Wine, Sparkling Wine และ Fortified Wine

การเสิร์ฟนั้น จะใช้อุณหภูมิแตกต่างกันออกไปตามคาแรคเตอร์ของไวน์ แต่โดยทั่วไปจะใช้อุณภูมิที่คล้ายกับ Sparkling Wine คือระหว่าง 7-10 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นมาอีกหน่อยอย่าง Sauternes จะเสิร์ฟให้อุ่นขึ้นมาสักหน่อย ราว ๆ 14 องศาเซลเซียส


จากที่กล่าวไปข้างต้นนี้ จะเป็นได้ว่าไวน์แต่ละชนิด มีอุณหภูมิที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้ไวน์ฉลากนั้น ๆ แสดงรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ เพื่ออรรถรสในการลิ้มรสชาติไวน์ที่ดีที่สุด

ถ้าครั้งไหนมีดินเนอร์ที่บ้าน ก็ลองนำเทคนิคนี้ไปไปลองใช้ดู แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติไวน์ในแบบที่ดีที่สุดเลยล่ะครับ