วิธีการผลิต Sherry Wine จะคล้ายกันมากกับ Port Wine มาก แต่จะแตกต่างกันตรงที่ Port Wine นั้น เขาจะใส่เหล้าลงไปผสมระหว่างการหมัก ทำให้เหลือน้ำตาลที่ยังไม่กลายเป็นแอลกอฮอล์ แต่สำหรับ Sherry Wine จะใส่บรั่นดีผสมลงไปตอนหมักเสร็จแล้ว แล้วเติมความหวานลงไปให้กับไวน์ทีหลัง

โดย Sherry Wine จะถูกหมักในถังที่เป็นชั้นๆ ประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นจึงจะถูกบรรจุลงขวด ซึ่งรสชาติก็จะไม่พัฒนาอีกต่อไป จึงสามารถนำมาดื่มได้เลยโดยไม่ต้องรอเวลาเหมือนกับไวน์ชนิดอื่น ซึ่ง Sherry Wine ต้องถูกผลิตในเมือง Cadiz ประเทศสเปนเท่านั้น จึงจะถูกเรียกว่า Sherry Wine ได้ ส่วน Port Wine จะมีหลากหลายชนิดตั้งแต่หวาน จนถึง Semi-Dry สามารถเก็บเอาไว้ได้นาน โดยเฉพาะถ้าเป็น พอร์ตไวน์ที่มีวินเทจดีๆ ยิ่งเก็บไว้ได้นาน ยิ่งมีรสชาติดีขึ้น บางฉลากที่มีวินเทจตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ซึ่งยังสามารถนำมาดื่มได้ในปัจจุบันได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามทั้ง Sherry Wine และ Port Wine จะผสมบรั่นดีลงไปผสมในไวน์ระหว่างการผลิต ทำให้ยีสต์โดนแอลกอฮอล์จากเหล้าทำลาย จนเหลือปริมาณน้ำตาลที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์เยอะ ส่งผลให้ไวน์มีรสหวาน และมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 18%-20% นั่นเองครับ

อ้างอิง :https://www.sherry.wine/
ภาพประกอบ : https://www.decanter.com/