เพราะอะไรไวน์แต่ละชนิด จึงใช้แก้วแตกต่างกัน ?
แก้วไวน์จำเป็น และส่งผลกับการดื่มไวน์หรือไม่ ? Wine-Now.Asia ขอตอบเลยว่า “แน่นอนครับ“ เพราะการดื่มไวน์เปรียบเสมือนศาสตร์อย่างหนึ่ง ผู้คนจึงได้คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับวิธีดื่มไวน์ขึ้นมามากมาย ทั้งยังเสาะหาเครื่องแก้ว หรือแก้วไวน์ดี ๆ ที่เหมาะกับการดื่มไวน์มาใช้ เพื่อให้ไวน์ได้แสดงรสชาติ และเผยคุณสมบัติแท้จริงออกมาได้มากที่สุด เพราะไวน์แต่ละชนิดผลิตด้วยองุ่นหลากหลายสายพันธุ์แตกต่างกันไป ทำให้มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ บอดี้ (Body), อโรม่า (Aroma), รสสัมผัส (Palate) หรือการหายใจ (Oxidation) เป็นต้น
แก้วไวน์ที่ดีนั้นจะต้องใสเพื่อให้เห็นสีของไวน์ได้อย่างชัดเจน ก้านแก้ว (Stem) จะต้องสูงเพื่อป้องกันความร้อนจากมือผู้ดื่ม และจะต่างกันไปในส่วนของตัวแก้ว (Bowl) และ ขอบแก้ว (Rim) ที่จะช่วยให้ไวน์แสดงองค์ประกอบทางรสชาติออกมาต่างกัน จึงต้องเลือกแก้วให้เหมาะสมกับไวน์ เพื่อช่วยให้การดื่มไวน์มีรสชาติที่ดีขึ้นนั่นเองครับ
แก้วไวน์แต่ละชนิดต่างกันอย่างไร ?
| แก้วไวน์แดง (Red Wine Glass)
| แก้วไวน์แดง (Red Wine Glass) ตัวแก้ว (Bowl) จะมีลักษณะอ้วนและปากกว้าง (Oversize Bowl) เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) กับไวน์ในแก้ว ซึ่งกล่าวกันว่าปฏิกิริยาเคมีนี้ จะไปทำให้รสชาติและกลิ่นของไวน์แดงนุ่มละมุนขึ้นอย่างชัดเจน เพราะไวน์แดงโดยปกติจะมีรสชาติที่เข้มข้น และซับซ้อน (Complex) เป็นคาแรคเตอร์เฉพาะตัวอยู่แล้ว
| แก้วไวน์ขาว (White Wine Glass)
| แก้วไวน์ขาว (White Wine Glass) ต่างจากวิธีการเลือกแก้วไวน์แดงไม่มากนัก เพราะรูปทรงของแก้วไวน์ขาวควรจะสูงเพรียวปากแก้วไม่กว้าง เพราะไม่ต้องการให้มีปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) ที่ส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของไวน์ขาว และด้วยเหตุผลนี้เองที่จะทำให้ อโรม่า (Aroma) คลุ้งมาตามแก้วไวน์ได้ดี และรูปทรงแก้วแบบนี้ยังทำให้ไวน์ รักษาความเย็นไว้ได้อีกด้วยครับ
| แก้วไวน์โรเซ่ (Rosé Wine Glass)
| แก้วไวน์โรเซ่ (Rosé Wine Glass) ไม่ต้องการให้มีปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) มากนัก เช่นเดียวกับแก้วไวน์ขาว เพราะอากาศที่สัมผ้สกับไวน์มากเกินไปจะไปทำลายความหอมอ่อนๆ ของไวน์ ดังนั้นลักษณะของตัวแก้ว (Bowl) จะไม่เป็นกระเปาะมากนัก ควรสูงเพรียวปากแก้วไม่กว้าง เพื่อรักษาความหอมละมุนของกลิ่นผลไม้หรือกลิ่นดอกไม้ที่อยู่ภายในไวน์
| แก้วสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine Glass)
| แก้วสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine Glass) หรือ แก้วแชมเปญ (Champagne Flutes) ให้เลือกแก้วที่มีรูปทรงยาวและปากแก้วแคบ เพราะรูปทรงแบบนี้จะช่วยลดการสัมผัสกับอากาศ พร้อมรักษาความซ่าอันเป็นเอกลักษณ์ของสปาร์คกลิ้งไวน์เอาไว้ให้นานที่สุด และก้านแก้วก็ควรจะมีความยาวที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียรสชาติ ด้วยความร้อนจากมือผู้ดื่ม
| แก้วไวน์หวาน (Dessert Wine Glass)
| แก้วสำหรับไวน์หวาน (Dessert Wine Glass) โดยทั่วไปไวน์หวานจะเป็นไวน์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง จึงควรเสิร์ฟในแก้วที่มีขนาดเล็ก โดยแก้วไวน์หวานมีหลายทรง ขึ้นอยู่กับระดับความหวานและปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์ที่ดื่ม ยิ่งแอลกอฮอล์ยิ่งสูงปากแก้วก็ควรยิ่งเล็กตามไปด้วยเพื่อไม่ให้รสชาติของไวน์หวานเกินไป
ทีนี้ไม่ว่าจะเลือกไวน์หรือแก้วไวน์ ทุกท่านสามารถเลือกเองได้ระดับนึงแล้ว หากอยากได้ไวน์และแก้วดีๆ ก็สามารถสั่งซื้อกับ Wine-Now.Asia ได้เลยครับ