10 เมืองไวน์ที่เหมาะแก่การปั่นจักรยาน
ในช่วงวันหยุดยาวคุณมักจะปล่อยตัวตามสบาย ออกไปเที่ยวในสถานที่สุดชิล ให้รางวัลตัวเองด้วยอาหารจานโอชะ ดื่มไวน์สุดโปรดมากกว่าปกติ ซึ่งแน่นอนเราว่าคุณทำถูกแล้ว แต่มันจะไม่เยี่ยมไปกว่าเหรอ ! ถ้าหากคุณสามารถออกกำลังกายไปด้วยในวันหยุดสุดชิลของคุณ และสำหรับชาว Wine-now เราคงจะออกกำลังกายแบบปกติไม่ได้ มันต้องเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับไวน์และอินเทรนด์ตามสมัยนี้ การไปเที่ยวตามเมืองไวน์ยอดนิยมแล้วปั่นจักรยานชมไร่ไวน์น่าจะเหมาะที่สุด เพราะนอกจากคุณจะเยี่ยมชมไร่ไวน์ได้กว้างและไกลกว่าปกติ บนจักรยานสุดชิค คุณและครอบครัวยังไม่ต้องกังวลการขับรถกลับที่พักหากมีใครจิบไวน์เกินขนาด
1. แซงเอมิลิยง (Saint Emillion) ประเทศฝรั่งเศส
เมือง แซงเอมิลิยง (Saint Emillion) สุดโรแมนติคในแคว้นบอร์โดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่ซึ่งพลาดไม่ได้ กับสถานที่ซึ่งได้รับการคัดเลือกจาก UNESCO ให้เป็นหนึ่งใน World Heritage ใช้เวลาของคุณปั่นจักรยานช้าๆผ่านไร่ไวน์ชื่อดังทั้งหลาย รับประทานอาหารกลางวันกลางไร่ไวน์ และดินเนอร์สุดโรแมนติดใน Chateau
2. อมาโรเน่ (Amarone) ประเทศอิตาลี
ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามของเมือง อมาโรเน่ (Amarone) ในแคว้น เวเนโต (Veneto) ประเทศอิตาลี ในขณะที่คุณปั่นจักรยานผ่านไร่ไวน์ ซึ่งในระหว่างทางคุณจะได้พบกับอาหารและไวน์ท้องถิ่นซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัว และที่พลาดไม่ได้แน่นอนคือ ไวน์อมาโรเน่ สุดคลาสสิคนั่นเอง
3.เมนโดซ่า (Mendoza) ประเทศอาร์เจนตินา
ให้ไกด์ผู้เชี่ยวชาญพาคุณท่องเที่ยวในเขตเมนโดซ่า (Mendoza) ในเมือง ไมปู (Maipu) ประเทศอาร์เจนตินา ดูทัศนียภาพรอบข้างที่สวยงามตระการตา และอย่าพลาดที่จะแวะไปเขต มาลเบค (Malbec)ซึ่งคุณจะไม่ผิดหวังกับอาหารกลางวันท่ามกลางไร่ไวน์
4. เบอร์กันดี (Burgundy) ประเทศฝรั่งเศส
ขี่จักรยานเยี่ยมชมชนบทของประเทศฝรั่งเศสกับเขตเบอร์กันดี (Burgundy) สุดคลาสสิค กับวิวโดยรอบที่สวยงามจนคุณจะไม่มีวันลืม เพื่อนๆและครอบครัวจะอิจฉาตาร้อนทันทีเมื่อคุณอัพรูปขึ้น ฉะนั้นสำหรับทริปนี้ สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือการชาร์จแบตกล้อง และมือถือของคุณให้พร้อม
5. คาซาบลังก้า (Casablanca) ประเทศชิลี
รับอากาศ และลมเย็นสดชื่นผ่านจักรยานของคุณ ที่คาซาบลังก้า ซึ่งห่างจากเมืองหลวงของประเทศชิลี ซานติอาโก (Santiago) เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ปั่นผ่านไร่ไวน์ทั่งหลายและมุ่งตรงไปดื่มไวน์ที่ไร่ Loma Larga ซึ่งได้รับรางวัล Winery of the year ปี 2011 โดยนิตยสาร Wine & Spirits Magazine และรางวัลนานาชาติอื่นๆอีกมากมาย
6.พรอวองซ์ (Provence) ประเทศฝรั่งเศส
คุณสามารถท่องเที่ยวด้วยตนเองในเขตพรอวองซ์ มีอิสระกับทุกกิจกรรมและกำหนดเวลาด้วยตัวคุณเอง รวมไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทางโรงแรมจัดให้ แล้วต้องไม่ลืมแวะชมทุ่งลาร์เวนเดอร์สีม่วงสุดตระการตาด้วย
7. ปีเอมอนเต (Piemonte) ประเทศอิตาลี
ตั้งแต่การเรียนทำอาหาร ปั่นจักรยานชมไร่ไวน์ ไปจนถึงการพักผ่อนที่สปาสุดหรู. ที่เมืองนี้มีให้คุณพร้อมทุกอย่าง ในวันหยุดซึ่งมีครบทุกรสชาติของคุณที่นี่
8.ลัวร์ แวลเลย์ (Loire Valley) ประเทศฝรั่งเศส
พบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกสัมผัส สวนที่สวยงาม และปราสาททีโดดเด่นทั้งหลายใน Loire Valley ผ่านจักรยานของคุณ โดยเส้นทางใน Loire Valley นี้เป็นเส้นทางที่ขี่ง่าย เหมาะแก่นักปั่นมือใหม่ทั้งหลาย และทุกคนในครอบครัว.
9.ฟรอนชูค (Franschhoek) ประเทศแอฟริกาใต้
ปั่นจักรยานผ่านเขตฟรอนชูค (Franschhoek) พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นคุณยังสามารถแวะชิมช็อคโกแลตที่โรงงาน Huguenot ทั้งนี้เมือง ฟรอนชูคยังถือเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารของประเทศแอฟริกาใต้ด้วย เพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่ไวน์ แต่คุณยังได้ชิมอาหารหลากหลายจนหน่ำใจอีกด้วย
10. คอร์นวอล (Cornwall) ประเทศอังกฤษ
เมืองคอร์นวอลเป็นหนึ่งในเมืองที่มีทัศนียภาพสวยที่สุดในประเทศอังกฤษ รวมไปถึง Vineyard ที่ดีที่สุด ชมทิวทัศน์ และอาหารทะเลสดใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก vivino