"ไวน์" มีกี่ประเภท?
WINE LEVEL: ENTRY
ตอบแบบเร็วและง่ายที่สุด ว่า ไวน์มีทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ 1.ไวน์แดง (Red Wine), 2.ไวน์ขาว (White Wine), 3.ไวน์โรเซ่ (Rose Wine), 4.ไวน์หวาน (Dessert Wine) และ 5.สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine)
“โดยหลักๆ ไวน์แต่ละประเภทจะถูกแบ่งตามวิธีการผลิต”
| ไวน์แดง (RED WINE)
สาเหตุที่ทำให้ไวน์แดงมีสีแดง นั่นเป็นเพราะ มีการเติมเปลือกองุ่น (Grape Skin), ขั้วองุ่น (Grape Pip) รวมถึงเมล็ด (Seed) เข้าไปในกระบวนการหมัก และไวน์แดงยังถูกหมักในอุณหภูมิสูง เพื่อสกัดเอาสี, รสฝาดของแทนนิน (Tanin), กลิ่นออกมา
ซึ่งจะมีความเข้มข้นแตกต่างกันไป ตามระยะเวลาการทิ้งเปลือกองุ่นไว้กับน้ำองุ่นในขั้นตอนการหมัก
| ไวน์แดง ดื่มง่ายๆ ได้แก่ คาร์เบอเนโซวีญง (Cabernet Sauvignon), แมร์โล (Merlot), ปิโนต์นัวร์ (Pinot Noir) และซินฟานเดล (Zinfandel) เ ป็นต้น
| 2.ไวน์ขาว (WHITE WINE)
บางคนอาจเข้าใจว่า ไวน์ขาว (White Wine) ทำมาจากองุ่นสีเขียวเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วไวน์ขาวก็สามารถผลิตมาจากองุ่นสีแดง โดยแยกเปลือกที่มีเม็ดสี (Pigment) สีแดงออก แล้วนำเพียงน้ำองุ่นไปผลิตทำไวน์ขาว
ซึ่งโดยปกติแล้วไวน์ขาวจะมีรสชาติเด่น ๆ ได้แก่ รสเปรี้ยวหวาน สดชื่น หรือครีมมี่ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยการผลิตที่ไม่เหมือนกัน
|ไวน์ขาว ดื่มง่ายๆ ได้แก่ ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay), รีสลิง (Riesling), โซวีญงบลอง (Sauvignon Blanc) และ มอสคาโต้ (Moscato) เป็นต้น
|3. ไวน์โรเซ่ (ROSE WINE)
โดยปกติ ไวน์โรเซ่ สีชมพูดอกกุหลาบนี้ จะได้มาจากในกระบวนการหมักเปลือกองุ่นแดง ที่ทิ้งให้สัมผัสกับน้ำองุ่นเพียงช่วงสั้น ๆ ราว 12-36 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมีการผลิตไวน์โรเซ่ (Rose Wine) ที่ใช้วิธีนำ ไวน์แดง (Red Wine) และ ไวน์ขาว (White Wine) มาเบลนด์ (Blended) เข้าด้วยกัน ก็เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้ เช่นกัน
| ไวน์โรเซ่ มีรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ดราย (Dry), ความฝาดต่ำ (Low Tannin) มีสีชมพูอ่อน ไปจนถึงสีชมพูเข้มอีกด้วย
|4.ไวน์หวาน (DESSERT WINE)
สำหรับไวน์หวานนั้น จะแตกต่างจากทั้งหมด เพราะเมื่อองุ่นสุกจะยังไม่เก็บ แต่จะปล่อยทิ้ง คาต้นไว้อีก 1-2 เดือน ตากแดด ตากลม จนลูกองุ่นใกล้เป็นลูกเกด ก่อนคั้นเอาน้ำมาทำไวน์หวาน
ไวน์หวาน นิยมเสิร์ฟเพื่อดื่มคู่กับของหวาน แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ มักดื่มไวน์ขาวหวาน (White Dessert Wine) เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนมื้ออาหาร และดื่มไวน์แดงหวาน (Red Dessert Wine) เพื่อล้างปากหลังมื้ออาหาร
| ไวน์หวาน ยังถูกแยกย่อยออกไปเป็น พอร์ท (Port), ทาวนี่ (Tawny) หรือเชอร์รี่ (Sherry) เป็นต้น
|5.สปาร์คกลิ้งไวน์ (SPARKLING WINE)
สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) ไวน์ชนิดนี้มีสไตล์ที่เด่นชัด ด้วยรสสมผัสซ่าจากฟอง (Bubble) ที่ได้จาก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในกระบวนการหมัก หรือถูกเติมเข้าไประหว่างการหมักก็ได้ สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine)สามารถแยกย่อยลงไปได้อีก ตามพื้นที่ หรือแหล่งที่ผลิต (Region) เช่น กาบา (Cava) จากสเปน (Spain), อาสติ (Asti) หรือ โปรเซคโก้ (Prosecco) จากอิตาลี (Italy) รวมถึง แชมเปญ (Champagne) จากแคว้นชองปาญ ประเทศฝรั่งเศส (France)
ทีนี้เราก็รู้จักกับหลักเบื้องต้นของไวน์ทั้ง 5 ชนิดแล้วนะครับ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านสามารถเลือกไวน์ได้ด้วยตัวเองระดับหนึ่ง แต่หากอยากศึกษาเพิ่มเติมทางเรามีเทคนิคอีกมากมายมาฝาก ซึ่ง สามารถติดตามต่อได้ที่ WINE-NOW.ASIA ได้เลยครับ