| BLANKIET ESTATE

เรื่องราวของ Blankiet Estate (แบลงเคียท เอสเตท) เริ่มขึ้นจาก Claude และ Katherine Blankiet ที่ต้องการสร้างไวน์ระดับโลกขึ้นมา โดยมองหาที่ดินเหมาะ ๆ แถวเชิงเขา Mayacamas Mountains จนกระทั่งในเดือนมกราคม 1996 ก็มีโอกาศได้ไปดูพื้นที่เนินเขาที่ยังไม่มีการพัฒนาอะไรของไร่องุ่น Napanook ใน Yountville ทั้งคู่ไม่รอช้า ตกลงซื้อขายที่ดินผืนนี้ และตั้งชื่อว่า Paradise Hills

ด้วยพื้นที่ฝั่งตะวันออกที่เปิดโล่ง รับแสงอาทิตย์ยามเช้าได้อย่างดี และเป็นร่มเงาในตอนบ่ายที่ร้อนระอุ พร้อมทั้งลมเย็น ๆ จากอ่าว San Pablo จึงเป็นพื้นที่ ๆ เหมาะสมที่สุดในการปลูกองุ่น พร้อมทั้งด้วยความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเคยเป็นแหล่งกำเนิดไวน์ระดับตำนาน อีกทั้งยังหลงเหลือซากของเถาองุ่นที่ถูกทิ้งไว้ในช่วงยุคต้องห้าม และยังเคยเป็นพื้นที่ล่าสัตว์ของชนเผ่าพื้นเมืองมาก่อนอีกด้วย โดยมีหลักฐานเป็นหัวธนูหิน

ที่ดินของไร่ Paradise Hills ตั้งอยู่บนเนินภูเขาไฟ 3 เนิน ที่แยกออกจากกันด้วยแหล่งน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขา ทำให้มีลักษณะดินมีหินเปราะ, เถ้าภูเขาไฟ และดินเหนียวที่เป็นชั้นหนา ๆ เป็นหน้าที่ของนักปลูกองุ่น David Abreu และ Winemaker - Helen Turley ที่จะใช้ประโยชน์ในความอุดมสมบูรณ์ที่ไม่เหมือนใครนี้ โดยองุ่นที่เลือกมาปลูกนั้น จะเน้นไปที่พันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot และ Petit Verdot ที่คัดเลือกมาจาก Bordeaux

สำหรับการผลิตไวน์ของ Blankiet Estate จะใส่ใจในคุณภาพเป็นพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกองุ่น หมักในถัง Stainless ขนาดเล็ก นำมาผ่านกระบวนการบ่มด้วยถัง French Oak โดยบ่มในถ้ำที่มีความอบอุ่น เพื่อบ่มแบบ Malolactic Fermentation เพื่อให้ไวน์มีรสชาตินุ่มนวลเป็นพิเศษ

Blankiet Estate ได้รับคำชื่นชมจาก Robert M. Parker ในฐานะไวน์ระดับโลก ที่ผสานความพิเศษของพื้นที่เพาะปลูก เข้ากับความสง่างามที่เหลือชื่อ

| BLANKIET ESTATE PRINCE OF HEARTS 2015

| BLANKIET ESTATE PRINCE OF MUSIC 2018

อ้างอิง : Blankiet Estate ~ Paradise Hills Vineyard

ภาพประกอบ
SKAI | Facebook