เทคนิคอ่านฉลากไวน์ ฉบับง่ายที่สุด
ตั้งใจอ่านฉลากไวน์อย่างจริงจัง สุดท้ายจบด้วยมองหาประเทศผู้ผลิต...ซึ่งอาจจะจบด้วยรสชาติไม่ถูกใจ
วันนี้ WINE-NOW.ASIA มีกลยุทธ์อ่านฉลากไวน์ฉบับง่ายที่สุด ที่จะทำให้การเลือกไวน์เป็นเรื่องง่ายๆ เพราะหากเราอ่านฉลากไวน์เบื้องต้นได้ เราก็สามารถเดารสชาติไวน์ที่อยู่ในขวดได้ระดับนึง ยิ่งเรามีฉลากที่ชอบอยู่แล้ว การเลือกครั้งต่อไปยิ่งง่ายขึ้นไปอีกครับ
| อ่านฉลากไวน์โลกใหม่
| มาเริ่มต้นด้วยการอ่านฉลากไวน์โลกใหม่ ที่ค่อนข้างอ่านง่ายกว่าฉลากไวน์โลกเก่ากันครับ
1. Logo : ระบุชื่อผู้ผลิต
2. Wine Name : ชื่อของไวน์ของฉลากนั้นๆ ที่ผู้ผลิตเป็นคนตั้งขึ้นมา
3. Grape Variety : ระบุสายพันธุ์องุ่นหลัก หรือพื้นที่ปลูกองุ่น ที่ใช้ผลิตไวน์ฉลากนั้นๆ
4. Vintage : ระบุถึงปีที่เก็บเกี่ยวองุ่น
5. Wine Regions : แหล่งผลิตไวน์ฉลากนั้นๆ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นชื่อประเทศ หรือเขตต่างๆ
โดย ตัวอย่างในรูปอ่านว่า ไวน์ยี่ห้อ Opus One วินเทจปี 2015 ที่ผลิตโดย Robert Mondavi และ Baron Philippe de Rothschild จาก Napa Valley เมือง Oakville, USA
| อ่านฉลากไวน์โลกเก่า
| การอ่านฉลากไวน์โลกเก่าอย่างไวน์ฝรั่งเศส อาจดูยุ่งยากกว่าไวน์โลกใหม่อยู่เล็กน้อย แต่หากเข้าใจหลักการแล้ว ก็จะคล้ายกันหมดครับทั้งไวน์ฝรั่งเศส หรืออิตาลี มาเริ่มดูส่วนประกอบต่างๆ ในฉลากกันเลย
1. The Estate's Classification : ไวน์ที่ได้รับการจัดลำดับคุณภาพมาตราฐาน จะมีระบุไว้อย่างชัดเจน เช่น Premier Grand Cru Classe หรือ Grand Cru Classe ตามพื้นที่ที่กำหนด
2. Appellation QWPSR (Quality Wine Produced in a Specific Region) : ไวน์ขวดนั้นถูกผลิตขึ้นมาจากองุ่นในพื้นที่เฉพาะ ที่ระบุไว้บนฉลากเท่านั้น ตัวอย่างในฉลากคือ Pauillac ก็คือไวน์นี้ทำการปลูกองุ่น และทำขึ้นในกฏข้อกำหนดครบทุกประการ
3. Estate Logo : รูปสัญลักษณ์ต่างๆ ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิต
4. Vintage : ปีที่เก็บเกี่ยวองุ่น
5. Bottling Information : ข้อมูลของการบรรจุไวน์ลงขวด เราจะเห็น Mis En Bouteille au Chateau บ่อยๆ ในฉลากไวน์ฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึงว่าไวน์ขวดนั้นถูกบรรจุที่ Château (ชาโตว์) ไหนครับ
6. Château / Estate : ชื่อของผู้ผลิตไวน์นั้นๆครับ ในตัวอย่างจะเป็น Château d'Armailhac
โดย ตัวอย่างในรูป คือ Château d'Armailhac วินเทจปี 2011 เป็นไวน์ระดับ Grand Cru Classe จากเขต Médoc ผลิตที่เมือง Pauillac ประเทศฝรั่งเศส โดยทำการบรรจุขวดที่ Château d'Armailhac นั่นเองครับ