Opus One ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง Bordeaux และ Napa Valley

17 เมษายน 2024
Posted in: Recommended
More from this author
By WINE-NOW

 

Opus One (โอปุส วัน) เป็นไวน์ที่เกิดจากความร่วมมือกันของเมื่อ Robert Mondavi (โรเบิร์ต มอนดาวี) ที่เป็นเหมือนเจ้าพ่อแห่งไวน์อเมริกาและ Baron Philippe de Rothschild (บาฮรองฟีลิปป์เดอร็อธ ชิลด์)  เจ้าของ Chateau Mouton Rothschild ผู้ปฏิวัติวงการไวน์โลก โดยทั้งคู่ได้นำเอาความเชี่ยวชาญในการปลูกองุ่น มาผสมผสาญกับเทคนิคการผลิตไวน์ทั้งจาก Napa Valley และ Bordeaux จึงเกิดเป็น Opus One หรือสุดยอดไวน์ฝรั่งเศสบนแผ่นดินอเมริกาเลยก็ว่าได้ครับ

 

ประวัติของ Opus One

 

 

ประวัติของ Opus One เกิดจากความบังเอิญที่ Robert Mondavi ได้บังเอิญพบกับ Baron Philippe de Rothschild ที่เกาะฮาวายเป็นครั้งแรกใน ปี 1970 โดยหลังจากชนแก้วกันเสร็จ Baron Philippe de Rothschild ก็ยื่นข้อเสนอให้ Robert Mondavi มาร่วมลงทุนด้วยกัน

 

ปี 1978  Baron Philippe de Rothschild  ได้เชิญ Robert Mondavi ให้ไปเยือน Chateau Mouton Rothschild ที่เมือง Bordeaux (บอร์กโดซ์) และใช้เวลาเพียงไม่ถึงชั่วโมง ทุกอย่างก็ลงตัวด้วยการถือหุ้นคนละ 50-50 เท่าๆ กัน โดย Baron Philippe เป็นผู้ออกทุนและความรู้ในการผลิตไวน์ ส่วน Robert Mondavi หาที่ดิน และคนงาน

 

ปี 1979 Lucien Sionneau (ลูเซียน ซิอองโน) ไวน์เมกเกอร์คนแรกของ Chateau Mouton Rothschild (ชาโต มูตอง ร็อธส์ชิลด์) ถูกส่งไปที่ Robert Mondavi Winery ที่ Napa Valley (นาปา แวลลีย์) เพื่อดูแลการผลิตไวน์วินเทจเเรก โดยขณะนั้นยังไม่ได้ตั้งชื่อ

 

 

โดย ไวน์จะทำการเก็บองุ่นด้วยมือล้วน ๆ ก่อนนำไปหมักในถังสแตนเลส 21-37 วัน และถ่ายไปบ่มในถังไม้โอ๊คขนาดเล็กจากฝรั่งเศสนาน 18 เดือน สุดท้ายบรรจุขวดและบ่มในขวด อีกประมาณ 18 เดือน ก่อนนำไปออกจำหน่าย ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เอง ที่ทำให้เกิดรสชาติของไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์

 

ปี 1980 ได้ชื่อ Opus One (ภาษาละตินแปลว่า พลังแห่งการทำงาน) และได้แถลงข่าวออกมาเป็นทางการ เป็นที่ฮือฮาวงการไวน์โลก

 

ปี 1984 Opus One (โอปุส วัน) วางจำหน่ายครั้งแรกพร้อมกัน 2 วินเทจ คือ 1979 และ 1980 ราคาขวดละประมาณ 50 เหรียญสหรัฐ ในตอนนั้นถือว่าราคาสูงมาก แต่ก็ไม่มีใครบ่น เพราะอย่างน้อยก็ได้มีส่วนในประวัติศาสตร์ของวงการไวน์

 

ปี 1988 ได้เริ่มส่งออกไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยเป็นฉลากวินเทจ 1985 ส่งไปยัง สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ เยอรมัน และฝรั่งเศส มีการดูถูกและต่อต้านบ้าง

 

 

นับเป็นเรื่องเสียดายที่ Baron Philippe ไม่ทันได้ดูความยิ่งใหญ่ของ Opus One เพราะเสียชีวิตในวันที่ 20 มกราคม 1988 ด้วยวัย 86 ปี ทิ้งมรดกให้ลูกสาว Baroness Philippine de Rothschild (บาฮรองเนส ฟิลิปปีนส์ เดอ ร็อธ ชิลด์) สานต่อความสำเร็จ ในขณะที่ Robert Mondavi ได้ชื่นชมความสำเร็จก่อนที่จะเสียชีวิตในวันที่ 16 พฤษภาคม 2008 ด้วยวัย 94 ปี เหลือเพียง Opus One ที่เป็นมรดกของ 2 สุดยอดแห่งตำนานไวน์โลก