Robert Mondavi - ตำนานไวน์ Napa Valley จากแคลิฟอร์เนีย

27 มีนาคม 2025
Posted in: Recommended
More from this author
By WINE-NOW

| Robert Mondavi: ตำนานผู้พลิกโฉม Napa Valley สู่เวทีไวน์ระดับโลก

ในใจกลางของ Napa Valley ดินแดนแห่งองุ่นและแสงแดด หนึ่งในชื่อที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของไวน์คุณภาพจากอเมริกาก็คือ Robert Mondavi ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เพียงแค่สร้างไวน์ แต่ได้สร้างวัฒนธรรมของไวน์แคลิฟอร์เนียให้โลกยอมรับ

Robert Mondavi Winery ก่อตั้งขึ้นในปี 1966 ถือเป็นโรงบ่มไวน์แห่งแรกที่สร้างขึ้นใน Napa Valley หลังยุค Prohibition (ยุคห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา) โดยมีเป้าหมายชัดเจนว่า ไวน์จาก Napa จะต้อง “เทียบชั้นไวน์จากฝรั่งเศสและอิตาลีได้อย่างสง่างาม”

Mondavi ผสมผสานความรู้จากโลกเก่า (Old World) กับความกล้าแห่งโลกใหม่ (New World) ใช้เทคนิคอย่างการบ่มในถังโอ๊คฝรั่งเศส และการควบคุมอุณหภูมิในการหมัก พร้อมกับยึดถือว่า “ไวน์คือศิลปะ ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่ม”

 

| ตำนานแห่ง Napa Valley และผู้เปลี่ยนโฉมไวน์อเมริกา

ในโลกของไวน์ ถ้ามีชื่อหนึ่งที่สามารถสะท้อนถึงความหลงใหล วิสัยทัศน์ และความเป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง ชื่อของ Robert Mondavi คงไม่พ้นลำดับต้น ๆ ของประวัติศาสตร์

ชายผู้ไม่เพียงสร้างไวน์คุณภาพสูง แต่ยังเปลี่ยนภาพลักษณ์ของไวน์อเมริกันจากไวน์ท้องถิ่น สู่ความยิ่งใหญ่ในเวทีระดับโลก

 

– จุดเริ่มต้นจากครอบครัวผู้อพยพ

Robert Mondavi เกิดในปี 1913 ที่มินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวผู้อพยพชาวอิตาเลียนที่มีความรักในไวน์มาตั้งแต่บรรพบุรุษ พ่อของเขา Cesare Mondavi เป็นผู้นำพาครอบครัวสู่ Napa Valley ซึ่งในยุคนั้นยังไม่เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำ

หลังจากเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์จาก Stanford University Robert ตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจไวน์ของครอบครัวที่ Charles Krug Winery ซึ่งในเวลาต่อมาเกิดความขัดแย้งในครอบครัวจนเขาแยกตัวออกมา

– การก่อตั้ง Robert Mondavi Winery ในปี 1966

เมื่ออายุ 53 ปี Robert Mondavi ตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ด้วยการก่อตั้ง Robert Mondavi Winery ที่ Oakville ในใจกลาง Napa Valley โดยเลือกใช้เทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ ๆ ในการผลิตไวน์

เขาเป็นผู้ริเริ่มการใช้ French oak barrels ในการหมักไวน์ ใช้ cold fermentation สำหรับไวน์ขาว เพื่อคงรสผลไม้สด และเป็นผู้ตั้งชื่อ "Fumé Blanc" ให้กับ Sauvignon Blanc เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ไวน์สายพันธุ์นี้ในอเมริกา

 

– แนวคิดและปรัชญาในการทำไวน์

Robert เชื่อว่าไวน์ควรเป็น "ศิลปะแห่งการใช้ชีวิต" (The art of living well)

เขามองว่าไวน์คือสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรม อาหาร ศิลปะ และผู้คน ไวน์ที่ดีต้องสะท้อน terroir หรือบุคลิกของภูมิประเทศนั้น ๆ ได้ชัดเจน และการผสมผสานระหว่าง ศาสตร์ของการเกษตร และ ศิลปะของผู้ทำไวน์ จะสร้างรสชาติที่ลึกซึ้งและมีชีวิต

 

– Opus One: ความร่วมมือแห่งตำนาน

หนึ่งในจุดสูงสุดของชีวิตเขาคือการร่วมมือกับ Baron Philippe de Rothschild จาก Chateau Mouton Rothschild เพื่อสร้างไวน์ที่สะท้อนความเป็น Bordeaux + Napa Valley ภายใต้แบรนด์ "Opus One"

ไวน์นี้ไม่เพียงเป็นหนึ่งในไวน์ที่แพงที่สุดของแคลิฟอร์เนีย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการยกระดับ Napa Valley สู่เวทีโลกอย่างแท้จริง

 

– มรดกที่ยังคงอยู่

แม้ Robert Mondavi จะเสียชีวิตในปี 2008 แต่มรดกของเขายังคงมีอิทธิพลต่อโลกไวน์อย่างชัดเจน Winery ที่เขาก่อตั้งยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในอเมริกาและทั่วโลก

การที่วันนี้คนทั่วโลกพูดถึง Napa Valley ในฐานะแหล่งผลิตไวน์คุณภาพสูง หนึ่งในบุคคลที่ควรได้รับเครดิตมากที่สุดก็คือชายที่ชื่อ Robert Mondavi

 


 

| ทำไมต้องเลือก Robert Mondavi Wines?

มันไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ... แต่มันคือการได้สัมผัส "จิตวิญญาณของผู้สร้าง" ที่เปลี่ยนเส้นทางของวงการไวน์ทั้งประเทศ

ไวน์หลายรุ่นของ Robert Mondavi มีให้เลือกตั้งแต่ซีรีส์ Napa Valley ไปจนถึง Reserve และพรีเมียมซีรีส์ เหมาะกับการดื่มคู่กับอาหารดี ๆ หรือเก็บสะสมใน cellar

  • ✔ ผู้บุกเบิก Napa Valley – เป็นผู้นำที่ทำให้ Napa เป็นที่รู้จักในระดับโลก
  • ✔ ไร่องุ่นคุณภาพจาก To Kalon Vineyard – แหล่งปลูกองุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น "Grand Cru" ของ Napa
  • ✔ ผสมผสานเทคนิคยุโรปและสไตล์แคลิฟอร์เนีย – ให้ไวน์ที่มีความสมดุล หรูหรา และดื่มง่าย
  • ✔ ได้รับคะแนนรีวิวระดับสูง – จาก Wine Spectator, James Suckling, Robert Parker
  • ✔ มีให้เลือกหลากหลายระดับ – ตั้งแต่ไวน์ดื่มทุกวันไปจนถึงระดับสะสมบ่มยาวนาน

| เคล็ดลับจากซอมเมอลิเยร์

1. อุณหภูมิการเสิร์ฟ: - ไวน์แดง (Napa Valley & Reserve Cabernet): เสิร์ฟที่ 16–18°C เพื่อเปิดกลิ่นผลไม้เข้มและโครงสร้างของแทนนิน - ไวน์ขาว (Private Selection Chardonnay): เสิร์ฟที่ 10–12°C เพื่อคงความสดชื่นและกลิ่นผลไม้หอม

2. การดีแคนต์ (Decanting): - สำหรับไวน์แดงในซีรีส์ Napa Valley และ Reserve ควรดีแคนต์ไวน์ก่อนเสิร์ฟประมาณ 30–60 นาที เพื่อช่วยเปิดอโรม่าที่ซับซ้อนและทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มขึ้น

3. แก้วไวน์: - ใช้แก้ว Bordeaux Bowl สำหรับ Cabernet Sauvignon เพื่อให้กลิ่นฟุ้งกระจายและช่วยให้ไวน์หายใจ - ใช้แก้ว Burgundy หรือแก้วไวน์ขาวทรงทิวลิปสำหรับ Chardonnay เพื่อเน้นกลิ่นผลไม้และสัมผัสครีมมี่

4. อาหารที่แนะนำ: - Cabernet Sauvignon: คู่กับสเต๊กเนื้อวากิว เนื้อแกะย่าง หรือชีสแข็ง - Chardonnay: เสิร์ฟคู่กับปลาย่าง ครีมซอส ซีฟู้ด หรือหอยนางรม

 


 

แนะนำซีรีส์ไวน์ยอดนิยมจาก Robert Mondavi

 

Robert Mondavi Private Selection Vint Chardonnay

| Robert Mondavi Private Selection

ไวน์ที่ทำจากองุ่นริมชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย เน้นดื่มง่าย หอมผลไม้ พร้อมกลิ่นโอ๊คบาง ๆ เหมาะสำหรับการดื่มในทุกวัน

ไวน์แนะนำ: Robert Mondavi Private Selection Chardonnay

สไตล์: โดดเด่นด้วย เนื้อสัมผัสแบบ Medium-bodied พร้อมความนุ่มลื่นแบบครีมมี่ กลิ่นหอมของผลไม้ตระกูลแอปเปิ้ลเขียว ลูกแพร์ และเปลือกเลมอน เปิดตามด้วยโน้ตของวานิลลา เนย และโอ๊คเบา ๆ จากการบ่มในถังไม้โอ๊คบางส่วน

เหมาะสำหรับ: ซีฟู้ด ไก่อบ หรือพาสต้าไวท์ซอส

Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon

| Robert Mondavi Napa Valley

ไวน์จากไร่ใน Napa Valley โดยตรง แสดงออกถึง terroir และโครงสร้างของ Napa ได้ชัดเจน ดื่มได้ทั้งตอนนี้หรือเก็บในระยะยาว

ไวน์แนะนำ: Robert Mondavi Napa Valley Cabernet Sauvignon

สไตล์: โครงสร้างแน่นแต่สมดุล Full-Bodied ให้รสสัมผัสหรูหราและกลิ่นหอมที่ซับซ้อน โดดเด่นด้วยกลิ่นของ แบล็กเบอร์รี่ พลัมสุก และเคอร์แรนต์ดำ ผสานกับโน้ตของ มอคค่า วานิลลา โอ๊คอบ และเครื่องเทศอ่อน จากการบ่มในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศสและอเมริกัน ส่วนแทนนินมีความแน่นแต่เนียนละเอียด ช่วยเสริมความยาวของรสชาติในตอนท้าย

เหมาะสำหรับ: สเต๊ก เนื้อย่าง หรือชีสแข็ง

Robert Mondavi The Estate Oakville Cabernet Sauvignon

| Robert Mondavi The Estate Oakville

ไวน์ระดับไอคอนจาก ไร่องุ่น To Kalon ซึ่งตั้งอยู่ใน Oakville ใจกลาง Napa Valley และได้รับการยกย่องว่าเป็น “Grand Cru” ของอเมริกา 

ไวน์แนะนำ: Robert Mondavi The Estate Oakville Cabernet Sauvignon

สไตล์: ให้ความรู้สึก Full-Bodied แสดงถึงความสมบูรณ์แบบของ Napa อย่างแท้จริง มีโครงสร้างแน่น รสชาติเข้มข้นและหรูหราในแบบ Napa Valley แท้ ๆ โทนของผลไม้เข้ม เช่น แบล็กเคอร์แรนต์ พลัมดำ และเชอร์รี่สุก ผสานด้วยกลิ่นของเครื่องเทศ แกรไฟต์ ดอกไม้แห้ง และโอ๊คที่คั่วอย่างประณีต

เหมาะสำหรับ: สเต๊กเนื้อวากิว/เนื้อแห้งหมักซอสไวน์แดง

คลิ๊กเพื่อดูไวน์ Robert Mondavi